สารบัญ

โจรสลัด (Pirate)

โจรสลัด

โจรสลัด (Pirate) หมายถึงบุคคลหรือกลุ่มคนที่ทำการปล้นเรือ, แย่งทรัพย์สิน, หรือลักลอบทำร้ายชีวิตและทรัพย์ของผู้อื่นบนทะเล หรือท่าเรือ โดยไม่มีสิทธิ์หรือสนับสนุนจากรัฐบาลใดๆ

โจรสลัด

ปัจจัยที่ทำให้ผู้คนหันมาเป็นโจรสลัด

  1. ความไม่เสถียรของเศรษฐกิจ : ความยากจน, การเสียงาน, หรือการรับราชการในกองทัพเรือที่ไม่มีความเป็นธรรมส่งผลให้หลายคนเลือกทางเป็นโจรสลัด
  2. การแย่งชิงอำนาจทางการค้า : ประเทศต่างๆ ในยุคทองของโจรสลัดมักใช้โจรสลัดเป็นเครื่องมือในการขัดขวางหรือยับยั้งการค้าของประเทศคู่แข่ง
  3. ปัญหาการจัดการและความปลอดภัย : แหล่งน้ำที่กว้างขวาง และเส้นทางการค้าที่ยาวยาวทำให้ยากต่อการจัดการและความปลอดภัย
โจรสลัด (Pirate)

โจรสลัด (Pirate) คำว่า “โจรสลัด” เกิดขึ้นมาได้ยังไง

คำว่า “โจรสลัด” ในภาษาไทยมาจากคำว่า “สลัด” ที่หมายถึงการปล้นหรือการปล้นทรัพย์ และ “โจร” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ทำผิดกฎหมายโดยการปล้นหรือปล้นทรัพย์. เมื่อนำสองคำนี้มาต่อกันจึงเป็นคำว่า “โจรสลัด” ที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีวิธีการหากินโดยการปล้นเรือบนทะเลหรือรุกรานเมืองริมฝั่ง.

ทั้งนี้, ความหมายและการใช้คำของ “โจรสลัด” ในบริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่างๆ ของประเทศต่างๆ อาจแตกต่างกันออกไป แต่ในบริบททั่วไปแล้ว โจรสลัดมักถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนที่อาศัยการปล้นเรือเป็นหลักในการมีชีวิตรอด.

ประวัติศาสตร์ของคำว่า “โจรสลัด” ในภาษาอื่น ๆ มักเกี่ยวข้องกับความหมายที่มีความเกี่ยวข้องกับการปล้นหรือการโจมตีเรือในทะเล. แต่ในบางภาษา คำที่ใช้แทน “โจรสลัด” อาจมาจากแหล่งที่มาต่างๆ ในประวัติศาสตร์ของแต่ละภาษา.

โจรสลัด

ประวัติศาสตร์ของโจรสลัดเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมากและยาวนานทั่วโลก แต่นี่คือภาพรวมสั้น ๆ ของประวัติศาสตร์โจรสลัด

  • โบราณ : โจรสลัดแรกๆ มีรายงานในทวีปเมดิเตอร์เรเนียน มีข้อมูลที่ว่าคนกรีก, รูมัน, และบาร์บารีเป็นโจรสลัดเป็นเวลาหลายศตวรรษ
  • ยุคสมัยกลาง : โจรสลัดมักจะเป็นกลุ่มคนที่ปล้นเรือและท่าเรือ ทางเหนือและทางออกเฉียงเหนือของยุโรป เช่น โจรสลัดวิกิงที่รุกรานยุโรปทางเหนือต่าง ๆ
  • ยุคทองของโจรสลัด : ระหว่างศตวรรษที่ 16 ถึง 18 ซึ่งมีฐานที่ในแคริบเบียน โจรสลัดหลายๆ คนสร้างชื่อเสียงในยุคนี้ เช่น Blackbeard , Captain Kidd , และ Anne Bonny
  • การสนับสนุนจากรัฐ : บางครั้งโจรสลัดได้รับการสนับสนุนแบบทางการเมืองโดยประเทศที่ต้องการขัดขวางหรือรบกับประเทศอื่น เช่น “ส่วนน้ำส่วนผ่าน” ของอังกฤษ
  • การกำจัดโจรสลัด : ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 ประเทศใหญ่ ๆ เริ่มจัดการกับปัญหาโจรสลัดอย่างมากขึ้น โดยเฉพาะอังกฤษที่มีบทบาทในการกำจัดโจรสลัดในแคริบเบียน
  • ยุคปัจจุบัน : โจรสลัดยังมีอยู่ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในบางพื้นที่เช่นชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก และประเทศโซมาเลีย ซึ่งเป็นข่าวที่โลกต้องเผชิญหน้าในปัจจุบัน

ความสำคัญของโจรสลัดในประวัติศาสตร์

  • ยุคทองของโจรสลัด : ศตวรรษที่ 16 ถึง 18 ถือว่าเป็นยุคทองของโจรสลัด โดยเฉพาะในแคริบเบียน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักประวัติศาสตร์และสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก
  • การขุดมูลประวัติศาสตร์และการค้าระหว่างทวีป : โจรสลัดมีบทบาทในการยับยั้งและแทรกแซงการค้าระหว่างประเทศ บางครั้งประเทศบางประเทศเรียกพวกเขาว่า “ส่วนน้ำส่วนผ่าน” และใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือในการทำสงครามทางการค้า
  • การสื่อสารความต้องการของประชาชน : บางครั้งโจรสลัดกลายเป็นแทนของกลุ่มคนที่รู้สึกถูกทำให้เดือดร้อน และเป็นวิธีในการแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลหรือเอกชนที่เขาคิดว่าเป็นภัยต่อเขา
  • การปลุกปั่นวัฒนธรรม : โจรสลัดได้รับการแสดงในหนัง ดนตรี และวรรณกรรม ทำให้เรามีภาพลักษณ์เฉพาะที่สำหรับพวกเขา และได้สร้างความประทับใจในวัฒนธรรมทั่วโลก
  • การเปลี่ยนแปลงในเทคนิคการป้องกัน : ปัญหาโจรสลัดทำให้เกิดการพัฒนาในการออกแบบเรือ และเทคนิคการป้องกันเรือ อาทิ เรือที่สร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับโจรสลัด
  • ยุคปัจจุบัน : ในยุคปัจจุบันโจรสลัดยังมีอยู่ โดยเฉพาะในชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก และประเทศโซมาเลีย ส่งผลกระทบต่อการค้าสากลและต้องการการตอบสนองระดับนานาชาติ

แท้จริงแล้ว, โจรสลัดได้รับความสนใจในประวัติศาสตร์เนื่องจากพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาและความท้าทายที่วิถีชีวิตทางทะเลและการค้าทะเลเอาไว้ในตัว.

เนื้อหาที่เกี่ยวกับโจรสลัด

  • ยุคทองของโจรสลัด
  • โจรสลัดในปัจจุบัน
  • 10 อันดับโจรสลัดที่มีชื่อเสียงในอดีต
  • Blackbeard (Edward Teach) (Thatch)
  • Anne Bonny
  • Captain Kidd (William Kidd)
  • Calico Jack (John Rackham)

สื่อต่างๆ เกี่ยวกับโจรสลัด

historysworld